หลักการและเหตุผล
ธุรกิจในปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงขึ้นทั้งในส่วนของการบริการและการผลิต ดังนั้นคำว่า “คุณภาพ” (Quality) ในสินค้าและบริการ จึงเป็นสิ่งที่องค์กรไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ มีข้อเท็จจริงว่า “การปฏิบัติงานของพนักงานทุกระดับในองค์กรมีผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์” ดังนั้นการฝึกอบรมให้พนักงานมีความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามมาตรฐานปฏิบัติงาน หรือ Work Instruction จึงเป็นสิ่งองค์กรควรให้ความใส่ใจอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วการฝึกอบรมในงาน On The Job Training ยังมีส่วนช่วยในการลดความสูญเสีย (Wastes) ที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการผลิตได้อีกด้วย
การฝึกอบรมในงานหรือการฝึกงานในหน้าที่ (On The Job Training) มีขอบเขตที่ควรทำดังนี้
- การมอบหมายงานให้กับพนักงานใหม่ที่เข้ามาร่วมงานกับองค์กร
- พนักงานปัจจุบัน (เก่า) ที่มีการปรับไปสู่ตำแหน่งใหม่
- การพัฒนาพนักงานเมื่อพิจารณาแล้วว่ามีความบกพร่องในงาน
- เป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่สามารถบรรลุได้
- พนักงานขาดความรู้และทักษะที่จำเป็นในการปฏิบัติงาน
- ความรับผิดชอบและลักษณะงานแตกต่างไปจากเดิม (ตำแหน่งเดิม)
- องค์กรต้องพัฒนาคนให้เก่งขึ้นและลดต้นทุนความสูญเปล่า (Waste or Muda)
- มีเครื่องจักรหรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาในองค์กร
การฝึกอบรมในงาน On The Job Training ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดเรียกว่า “การสอนแบบสาธิตและปฏิบัติ” (Demonstration and Performance) การสอนลักษณะนี้มีแนวทางก่อให้เกิดความรู้ (Knowledge), ความเข้าใจ (Understand), ทักษะความชำนาญ (Skill) และทัศนคติที่ดี (Attitude) หรือที่เรียกว่าเป็นการสอนให้เกิด KUSA ได้ชัดเจนที่สุด ซึ่งมีองค์ประกอบของการสอนดังนี้
- การอธิบาย (Explanation)
- การสาธิต (Demonstration)
- ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมของพี่เลี้ยง (Mentor)
- การประเมินผลในการปฏิบัติงาน (Evaluation)
การประเมินผลการปฏิบัติงานของ On The Job Training เมื่อลูกน้องมีประเด็นที่ต้องได้รับการปรับปรุง หัวหน้าต้องมีศิลปะในการให้ข้อมูลป้อนกลับเพื่อการปรับปรุงหรือการให้ Feedback นั่นเอง โดยหัวหน้างานสามารถใช้หลักการ FISHs และเทคนิค WRI ร่วมกับการสอนงานแบบ OJT ซึ่งทำให้การให้ Feedback มีประสิทธิภาพ และยังคงรักษาสัมพันธภาพอันดีระหว่างหัวหน้ากับลูกน้อง
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้ผู้เรียนตระหนักถึงความสำคัญของการฝึกอบรมในงาน (OJT – On The Job Training) ว่ามีผลกระทบต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ และมีส่วนช่วยลดความสูญเสียในกระบวนการผลิตได้
- เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจการสอนงานแบบ “การสอนแบบสาธิตและปฏิบัติ” (Demonstration and Performance) ที่มีผลครอบคลุม Knowledge, Understand, Skill and Attitude (KUSA)
- เพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้หลักการและเทคนิคของการให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาหลักสูตร
Module 1 – พื้นฐานของการพัฒนาบุคลากรในองค์กร
- แนวคิดในการทำกำไรของธุรกิจสมัยใหม่
- จิตสำนึกความเป็นเจ้าของกับการสอนงาน (Ownership Quotient)
- กรณีศึกษา: คุณภาพการปฏิบัติงานกับการสอนงาน
- แนวคิดของการฝึกอบรมภายในอุตสาหกรรม (TWI)
- ความหมายและวัตถุประสงค์ของการสอนงาน
- การฝึกอบรมในงานกับมาตรฐาน ISO 9001
- ลักษณะงานที่เหมาะสมกับการฝึกอบรมในงาน
Module 2 – การพัฒนาการฝึกอบรมในงานอย่างเป็นรูปธรรม
- ขั้นตอนของการพัฒนาการฝึกอบรมในงาน
- สำรวจความเกี่ยวข้องของการฝึกอบรมในงาน
- จัดทำรายการความรู้ (Knowledge) และทักษะ (Skill)
- การวัดผลและประเมินผลเชิงรูปธรรม (Measurement & Evaluation)
- กำหนดโปรแกรมการฝึกอบรมในงาน
- การจัดทำคู่มือการฝึกอบรมในงาน (เอกสารระเบียบปฏิบัติงาน / SOP / WI / Work Manual)
- การจัดทำระบบรายงานของพนักงาน
- ตัวอย่างเอกสารประกอบการฝึกอบรมในงาน
- การทำ OJT ด้วยการสอนแบบสาธิตและปฏิบัติ (Demonstration & Performance)
- การอธิบาย (Explanation)
- การสาธิต (Demonstration)
- ปฏิบัติงานภายใต้การควบคุมของพี่เลี้ยง (Mentor)
- การประเมินผลในการปฏิบัติงาน (Evaluation)
- หลักปฏิบัติของการสอนงานของ On The Job Training
- การแตกงานทั้งกระบวนการเป็นองค์ประกอบย่อย
- บ่งชี้จุดสำคัญและเหตุผลของจุดสำคัญ
- แสดงให้เห็นขณะอธิบายในแต่ละองค์ประกอบย่อย
- ให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติและให้คำชี้แนะตลอดกระบวนการ
- แนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงาน
- หลักการและเทคนิคการให้ Feedback
- เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์
- Killing Word VS Magic Word
- หลักการให้ Feedback แบบ FISHs
- เทคนิคการให้ Feedback แบบ WRI
- Activity I-II: แสดงบทบาทสอนงานและเขียน WI (Work Instruction)
- Activity III: ฝึกการให้ Feedback กับ OJT