หลักการและเหตุผล
ในสภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบัน องค์กรต้องเผชิญกับปัญหาที่ซับซ้อนซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน และความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ปัญหาเหล่านี้มักไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเพียงข้อเดียว และต้องใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ที่เป็นระบบในการแก้ไข
การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving: CPS) เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้บุคลากรสามารถวิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุที่แท้จริง คิดค้นแนวทางแก้ไข และตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะนี้จะช่วยให้องค์กรสามารถปรับตัวได้ดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
เพื่อให้บุคลากรมีความสามารถในการรับมือกับปัญหาที่ซับซ้อน หลักสูตรนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้แนวคิด กระบวนการ เครื่องมือ และเทคนิคที่ใช้ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน รวมถึงการฝึกปฏิบัติจริงผ่านกรณีศึกษาและเวิร์กชอป
วัตถุประสงค์
- เพื่อให้เข้าใจแนวคิดและความสำคัญของการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
- เพื่อพัฒนาทักษะการวิเคราะห์และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
- เพื่อเรียนรู้และฝึกใช้เครื่องมือในการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ
- เพื่อเสริมสร้างทักษะการตัดสินใจและคิดเชิงกลยุทธ์
- เพื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานจริงได้
เนื้อหาหลักสูตร
1. การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน (Complex Problem-Solving)
- ความหมายและความสำคัญของการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
- ลักษณะของปัญหาที่ซับซ้อนในที่ทำงาน
- ทักษะที่จำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาซับซ้อน
2. กระบวนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
- การระบุปัญหา (Problem Identification)
- การวิเคราะห์และหาสาเหตุของปัญหา (Root Cause Analysis)
- การสร้างแนวทางแก้ไข (Solution Generation)
- การตัดสินใจเลือกแนวทางแก้ไข (Decision Making)
- การดำเนินการแก้ไขและติดตามผล (Implementation & Monitoring)
3. เครื่องมือและเทคนิคสำหรับการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
- SWOT Analysis – วิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค
- Pareto Principle (80/20 Rule) – วิเคราะห์ปัญหาสำคัญที่มีผลกระทบมากที่สุด
- Decision Tree – เครื่องมือช่วยตัดสินใจเชิงตรรกะ
- Systems Thinking – การมองภาพรวมและการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของปัจจัยต่าง ๆ
4. กรณีศึกษาและการฝึกปฏิบัติ
- วิเคราะห์ปัญหาจากกรณีศึกษาองค์กรจริง
- ใช้เครื่องมือและเทคนิคที่เรียนรู้มาประยุกต์ใช้
- นำเสนอแนวทางแก้ไข
